ความหมายของระบบ

              ปัจจุบันเราต่างคุ้นเคยและใช้คำว่า  ระบบ(System)กันอยู่เกือบตลอดเวลา  โดยเฉพาะคนใช้ชีวิตและทำงานอยู่ในสังคมเมือง  ซึ่งถ้าสังเกตดีๆจะเห็นว่าเราต่างใช้ชีวิตอยู่ภายในหรือเป็นส่วนหนึ่ง  หรือเกี่ยวข้องกับระบบเสมอๆไม่ว่าจะเป็นระบบสังคม  ระบบการศึกษา  ระบบขนส่งมวลชน  ระบบไฟฟ้า-ประปา  ระบบธุรกิจ  และระบบคอมพิวเตอร์  แม้แต่ตัวเราเองก็ถือว่าเป็นระบบทางชีวภาพ(Biological  System)ที่ดำเนินการไปได้อย่างน่าอัศจรรย์แต่ถ้าจะถามว่าระบบคืออะไร  อะไรเป็นระบบ  อะไรไม่เป็นระบบ  ระบบประกอบด้วยอะไร  หรือคำถามอื่นๆซึ่งหลายคนอาจจะตอบได้ยากและไม่ชัดเจน  ดังนั้นก่อนจะศึกษาถึงระบบสารสนเทศและการออกแบบระบบซึ่งเป็นหัวใจของหนังสือเล่มนี้  เราจะต้องเข้าใจความหมายของศัพท์คำนี้ก่อน  โดยพิจารณาถึงความหมายที่สำคัญๆเพื่อหาข้อสรุปสำหรับการศึกษาต่อไป  สำหรับความหมายที่น่าสนใจมีดังนี้

            ระบบ  หมายถึงการรวบรวมส่วนประกอบที่มีความสัมพันธ์กันภายใน(Interrelation)  และมีปฏิสัมพันธ์กัน  ซึ่งส่วนประกอบทั้งหลายเหล่านี้จะร่วมกันทำงานเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน  เพื่อให้บรรลุถึงจุดมุ่งหมายที่ได้กำหนดไว้(Banathy,1968)

           ระบบ  หมายถึงการรวมถึงการรวมกลุ่มของส่วนประกอบต่างๆที่มีการปฏิสัมพันธ์กันขึ้นบางอย่างทั้งนี้เพื่อให้บรรลุจุดมุ่งหมายที่กำหนดไว้(Wong,1971)

           ระบบ  หมายถึงผลรวมขององค์ประกอบย่อยๆที่มีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง  และมาประกอบรวมกันเป็นระบบเพื่อทำหน้าที่บางอย่าง  เช่น  ร่างกายมนุษย์  สังคมมนุษย์  พืชและรถยนต์  เป็นต้น(Robbins,1983)

           ระบบ  หมายถึงผลรวมของหน่วยย่อยซึ่งทำงานเป็นอิสระจากกัน  แต่มีปฏิสัมพันธ์กัน เพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้(ชัยยงค์  พรหมวงศ์,2523)

           ระบบ  หมายถึงส่วนรวมทั้งหมด  ซึ่งประกอบด้วยส่วนย่อยหรือส่วนต่างๆที่มีความสัมพันธ์กัน  อาจจะเกิดโดยธรรมชาติ  เช่น  ร่างกายมนุษย์  ซึ่งประกอบด้วยระบบการหายใจ  การย่อยออาหาร เป็นต้น  โดยแต่ละระบบต่างทำงานของตนแล้วมามีปฏิสัมพันธ์กัน  เพื่อให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้  หรือเป็นสิ่งที่มนุษย์ออกแบบและสร้างสรรค์ขึ้นอย่างมีระเบียบ  แล้วนำสิ่งเหล่านั้นมารวมกัน  เพื่อให้การดำเนินการสามารถบรรลุไปได้ตามจุดหมายที่วางไว้  (กิดานันท์  มะลิทอง,2543)

           ระบบ  หมายถึงลักษณะเป็นกลุ่ม(Set)ที่ทีองค์ประกอบ(Component)หลายๆส่วน    โดยแต่ละองค์ประกอบจะทำงานร่วมกันเพื่อจุดประสงค์(Purpose)เดียวกัน(โอภาส  เอี่ยมสิริวงศ์,2545)

          ระบบ  หมายถึงชุดองค์ประกอบที่สัมพันธ์กัน  และก่อให้เกิดผลลัพธ์โดยเฉพาะออกมา(กิตติมา  เจริญหิรัญ,2546)

          ระบบ  หมายถึงสิ่งที่ประกอบขึ้นมาจากหน่วยย่อยหรือองค์ประกอบย่อย  ที่จะต้องมีความสัมพันธ์และทำหน้าที่ร่วมกัน  เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้(วิชุดา  ไชยศิวามงคล,2547)

          ระบบ  หมายถึงสิ่งต่างๆที่มีการติดต่อสัมพันธ์กัน  เพื่อให้บรรลุเป้าหมายอย่างใดย่างหนึ่งร่วมกัน(รัชนี  กัลยาวินัย,2548)

         จากที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่า  มีผู้ให้ความหมายของระบบไว้คล้ายคลึงกันในหลายด้าน  ทำให้ผู้เขียนพอจะสรุปได้ว่า  ระบบคือสิ่งที่ประกอบด้วยองค์ประกอบหน่วยหลายๆหน่วยที่มีความสัมพันธ์กัน  และทำหน้าที่ประสานกัน  อีกทั้งร่วมกันทำงานอย่างเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน  โดยมีเป้าหมายในการแปรสภาพทรัพยากรที่นำเข้ามา(Input)ให้ได้ผลลัพธ์(Output)หรือผลผลิต  เพื่อให้การดำเนินงานนั้นบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้  โดยภายในระบบแต่ละระบบสามารถมองเป็นระบบย่อยได้  ซึ่งระบบย่อยเหล่านี้ถือว่าเป็นระบบด้วยเช่นกันเพราะมีองค์ประกอบต่างๆของระบบที่สมบูรณ์ในตัวเอง  เมื่อระบบย่อยหลายๆระบบรวมกันทำให้เกิดระบบใหญ่ขึ้น  ดังนั้นอาจจะกล่าวได้ว่าระบบใดๆก็ตาม ย่อมเป็นระบบย่อยของระบบที่ใหญ่กว่าเสมอ

           นอกจากการศึกษาความหมายของคำว่าระบบแล้วนั้นการศึกษาเพื่อที่จะเข้าใจและรู้ถึงลักษณะของระบบ จะทำให้เข้าใจในความหมายของคำว่าระบบที่จะต้องทำการวิเคราะห์มากยิ่งขึ้นซึ่งLucas(1992)ได้รวมความคิดเกี่ยวกับระบบแล้วสรุปไว้ว่าสิ่งที่เรียกว่าระบบนั้นมีลักษณะสำคัญ  ดังนี้

           1. องค์ประกอบของระบบทุกองค์ประกอบจะมีความสัมพันธ์และพึ่งพาอาศัยกัน การศึกษาระบบใหญ่ใดๆก็คือการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างองค์ประกอบของระบบนั้น

           2.การมองระบบต้องมองโดยรวมทั้งหมด ไม่สามารถจะตัดหรือมองข้ามองค์ประกอบใดๆในระบบนั้นได้ แม้องค์ประกอบนั้นจะเป็นระบบย่อยของระบบย่อยก็ตาม

           3.ระบบทุกระบบต้องมีเป้าหมายที่แน่นอน  องค์ประกอบภายในระบบแม้จะมีภาระหน้าที่ต่างกัน แต่ต้องมีเป้าหมายเพื่อบรรลุผลตามเป้าหมายของระบบใหญ่

           4.ระบบทุกระบบต้องมีปัจจัยนำเข้าและผลลัพธ์

           5.ระบบทุกระบบต้องมีขั้นตอน  เพื่อจัดกระทำปัจจัยนำเข้าให้ได้ผลลัพธ์ตามเป้าหมายของระบบ

          6.ระบบทุกระบบต้องมีขอบเขตแน่นอน  สิ่งที่อยู่นอกขอบเขตของระบบจะถูกเรียกว่า สิ่งแวดล้อม(Environment)

         7.ระบบทุกระบบต้องมีแผน(Planning),มีการควบคุม(Control)และการให้ข้อมูลย้อนกลับ(Feedback)

         8.ระบบทุกระบบย่อยมีโครงสร้าง  และสามารถแบ่งออกเป็นระบบย่อยได้หลายระดับ(Hierarchy)

         9.ระบบย่อยในระบบใดๆแม้มีความัมพันธ์กัน  แต่ย่อมมีข้อแตกต่างกันในภารกิจ และสามารถเขียนหรืออธิบายความสัมพันธ์และภารกิจได้อย่างชัดเจน

         10.การดำเนินการภายในของระบบใด สามารถกระทำได้หลายทาง โดยบรรลุวัตถุประสงค์สุดท้ายของระบบเหมือนกัน(Equifinality)

        จะเห็นได้ว่าจากการศึกษาลักษณะของระบบและการมองภาพในเชิงระบบ  จะช่วยให้เราสามารถแยกสิ่งที่เราสนใจออกจากสิ่งอื่นๆหรือสภาพแวดล้อมได้  ซึ่งช่วยให้เราสามารถศึกษา วิเคราะห์ ทำความเข้าใจ และใช้ประโยชน์จากความรู้ที่มีจากระบบที่เราสนใจได้อย่างชัดเจนและเป็นรูปธรรม ทำให้การศึกษาวิชาต่างๆนั้นนำการคิดเชิงระบบมาประยุกต์        (System Engineering)ในการศึกษาทำคามเข้าใจ  และแก้ปัญหาต่างๆอย่างบูรณาการและมีประสิทธิภาพอีกด้วย

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น